Why LGBT relationship is better with Pet [4 reasons why]

ทำไมการมีสัตว์เลี้ยงถึงทำให้คู่รัก Gay และ Bi เผยว่ามีความสัมพันธุ์ที่ดีขึ้น นี่คือ 4 เหตุผลทำไม: 

1. ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนาขึ้น

จากผลสำรวจของเว็บไซท์ rover.com กับคู่รัก gay และ bi ค้นพบว่า 56% ของคู่รักทั้งหมดใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น โดยเวลาทีเพิ่มขึ้นนั้นจะใช้ไปกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเขา

2. มีกิจกรรมใหม่ๆร่วมกันมากขึ้น

การมีสัตว์เลี้ยงทำให้หลายคู่รักมีกิจกรรมใหม่ที่เขาต้องทำรวมกันมากขึ้น เช่นต้องพาไปเดิน พาไปหาหมอ อาบน้ำให้สัตว์ หรือออกไปซื้ออาหารสัตว์

3. มีคนที่ 3 ให้เป็นที่พึ่ง

คู่รักหลายคนเมื่อทะเลาะกันก็ไม่รู้จะหันไปหาใคร การมีสัตว์เลี้ยงเป็นคนที่สามในบ้านทำให้เขามีอีกคนนึงที่จะสามารถระบายและอยู่ข้างเขาเสมอเพราะสุนัขจะรักทั้งคู่และพร้อมจะกอดคุณไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก

(นอกจากนี้กิจกรรมที่เขาต้องทำร่วมกัน ยังทำให้คู่รักต้องหันมาคุยกันจนทำให้โกรธกันไม่ได้นาน)

4. Shared Commitment

การมีสัตว์เป็นสิ่งผูกมัดที่ทำให้คู่รักต้องหันมานั่งวางแผนร่วมกัน คิดถึงอนาคตร่วมกัน และเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตที่ต้องคำนึงถึงอนาคตมากขึ้น เช่นการที่คุณจะมีหมาสักตัว คุณต้องคิดละ ว่าเมื่อถึงวันหยุด คุณจะไปเที่ยวอาทิตย์ไหนดี? ฝากหมาไว้กับใคร? หรือจะหาโรงแรมไหนที่ให้สุนัขเข้าพักด้วยได้?  

(ในผลสำรวจจาก rover.com คู่รักที่มีสุนัขมีโอกาสที่จะเปิดบัญชีธนาคารร่วมมากกว่าคู่รักที่ไม่มี)

5. เตรียมตัวสำหรับการมีลูกจริง 

เกินครึ่งของผู้สำรวจเผยว่าเขาคิดว่าการเลี้ยงสัตว์สามารถเตรียมตัวเขาสำหรับการมีลูกจริงได้ดีขึ้น ทำไมนะหรอ? เพราะการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยมันไม่ได้เหนื่อยแพ้ลูกคนเลย เราเห็นคู่รักหลายคู้นั่งเลือกรถเข็นที่เหมาะกับหมาและ lifestyle เขา อ่านเรื่องการเลือกอาหาร และตื่นมากลางดึกเมื่อลูกร้อง..หมายถึงเมื่อสุนัขร้อง

สินค้าที่ Pet parent ไม่ควรพลาด!

Continue ReadingWhy LGBT relationship is better with Pet [4 reasons why]

7 ข้อบ่งชี้คุณคือ Pet Parent หรือ Pet Owner?

หลายๆบ้านเคยสังเกตไหมคะ? ว่าหลายๆครั้งเวลาเราสื่อสารกับเจ้าหมาน้อยจะใช้คำแทนว่า “ลูก” และเรามักจะแทนตัวเองว่า พ่อ หรือ แม่ ซึ่งถือว่าเป็นคำที่มีความหมายมาก เพราะเราเริ่มเห็นเจ้าสี่ขาเป็นสมาชิคคนหนึ่งของครอบครัว เราเริ่มแสดงความรักและดูแลเขาราวกับว่าพวกเขาเป็นเด็กตัวน้อยๆในบ้าน 

ซึ่งวันนี้เราจะมาดูข้อแตกต่างระหว่าง Pet parent กับ Pet Owner ว่าต่างกันอย่างไร และคุณอยู่กลุ่มไหนคะ

1. เริ่มนอนบนเตียง

การอุ้มน้องขึ้นมานอนด้วยโดยไม่รู้ตัว เว้นที่นอนไว้ให้น้อง หรือการที่สุนัขหรือแมวของคุณกระโดดขึ้นเตียงเป็นเรื่องธรรมดาเพื่อมานอนข้างคุณหรือบางครั้งก็นอนเบียด

2. แชร์ของใช้ร่วมกัน

ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าห่ม หรือเก้าอี้ตัวโปรด ถ้าคุณเริ่มแชร์สิ่งที่คุณใช้ในชีวิตประจำวัน คุณกำลังอยู่ในกลุ่ม Pet Parent  

3. “พาไปหาหมอ vs. วันนี้มีนัดหมอแนน”

Pet owner พาสุนัขไปหาหมอ แต่ถ้าคุณเริ่มมีหมอประจำและสัตว์เลี้ยงของคุณจำเป็นต้องเจอหมอคนนี้เท่านั้น คุณกำลังจะเป็น Pet Parent ของแท้

4. คุณเริ่มคุยกับหมาแมวโดยไม่จำเป็น

ถ้าคุณกำลังพยายามจะสื่อสารกับสุนัขหรือแมวของคุณเป็นประจำ โดยสื่อสารแบบตั้งใจให้หมาทำอะไรหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือเข้าใจสิ่งที่คุณพูด (ทั้งที่รู้ว่าน้องไม่เข้าใจภาษามนุษย์) คุณก็คือ Pet Parent คนนึง เช่น

  • Pet Owner: ห้ามกัดนะชูชู!
  • Pet Parent ไม่กัดนะลูกเข้าใจใหม ถ้าหนูกัดแม่จะไม่เล่นด้วยแล้วนะ คนอื่นเขาก็จะไม่รักหนูด้วยนะ รู้ไหมออกมาข้างนอกทีไรทำตัวไม่น่ารักเลยนะ ไม่กัดแล้วนะสัญญากับแม่ก่อน”

5. คุณไปไหนนานๆไม่ได้

ไม่ใช่เพราะกลัวไม่มีคนดูแล แต่เพราะคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเหงา และต้องการที่รีบกลับไปหาน้อง ถ้าคุณเริ่มคิดถึงน้องเหมือนคุณคิดถึงคนรัก คุณก็คือ Pet Parent 

6.รูปสุนัขหรือแมวคุณไม่มีคุณอยู่ในรูป

ลองกลับไปดูรูปในโทรศัพท์คุณ ว่าส่วนใหญ่เป็นรูปคุณถ่ายคู่กันกับน้อง หรือเป็นรูปน้องในอริยาบทต่างๆ ถ้าการถ่ายรูปของคุณเริ่มเป็นการเก็บช่วงเวลาและกิจกรรมต่างๆของน้องมากกว่า คุณก็อาจะเป็น Pet Parent ได้

7.คุณคิดถึงน้องที่จากไปแล้วเหมือนครอบครัวคนนึงที่จากไป

อาจจะหลายปีมาแล้วที่น้องได้จากไป และคุณสามารททำใจได้แล้ว หรืออาจจะสามารถมีน้องหมาตัวใหม่ได้หลังจากผ่านมาสักพัก แต่คุณไม่เคยลืมน้องที่คุณเคยเลี้ยงตอนเด็กๆหรืออยู่ๆดีก็คิดถึงน้องตัวเก่า กลับไปดูรูปเขาและคิดถึงช่วงเวลาดีๆที่ได้ใช้ร่วมกัน นั้นเหละคุณคือ Pet Parent แน่นอน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: https://www.bdrr.org/dog-blog/pet-parent-pet-owner

สินค้าที่ Pet parent ไม่ควรพลาด!

Continue Reading7 ข้อบ่งชี้คุณคือ Pet Parent หรือ Pet Owner?