รู้จัก Colostrum อ้อมกอดปกป้องจากนมแม่ของสัตว์เลี้ยง

Colostrum คืออะไร

Colostrum หรือ นมน้ำเหลือง คือน้ำนมจากแม่สุนัขในช่วง 24-72 ชั่วโมงแรกหลังคลอด โดยจะมีความแตกต่างจากน้ำนมปกติตรงที่จะมีลักษณะข้นและมีสีเหลืองนวล ในขณะที่น้ำนมสุนัขปกติจะมีลักษณะสีขาวและใสกว่า

Colostrum มีความสำคัญต่อลูกสุนัขมาก เพราะในช่วงแรกลูกสุนัขยังสร้างภูมิคุ้มกันเองไม่ได้เลยต้องได้รับภูมิคุ้มกันที่แม่ถ่ายทอดให้ก่อน หรือที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันแบบรับมา (Passive Immunity) ซึ่งแม่สุนัขจะถ่ายทอดภูมิคุ้มกันมาให้ลูกสุนัขผ่านทาง Colostrum นั่นเอง ทำให้ลูกสุนัขมีภูมิต้านทานป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ได้นาน 6-8 สัปดาห์ หลังคลอด

Colostrum (นมน้ำเหลือง)

มีสีเหลืองนวลและข้น
มีภูมิคุ้มกันจากแม่ สารต้านแบคทีเรีย และ Growth Factor
ผลิตมาแค่ช่วง 24-72 ชั่วโมงแรกหลังคลอดเท่านั้น

เคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับการให้ลูกสุนัขกินนมแม่

ควรให้ลูกสุนัขได้กินนมแม่สุนัขภายใน 24-72 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เพื่อให้ลูกสุนัขได้รับ Colostrum จากแม่นั่นเอง
การให้ลูกสุนัขได้กินนมแม่สุนัขไปจนถึงช่วงหย่านม นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูกด้วย
ควรดูแลให้ลูกสุนัขได้รับนมเพียงพอในแต่ละวัน

ข้อดีของลูกสุนัขที่ได้รับ Colostrum

  1. มีภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ ในช่วง 6-8 สัปดาห์แรก
    2. มีความต้านทานต่อการติดเชื้อต่างๆ มากกว่าลูกสุนัขที่ไม่ได้รับ
    3. ร่างกายแข็งแรง มีพัฒนาการรวดเร็ว

Passive Immunity : ภูมิคุ้มกันที่คุณแม่มอบให้

เนื่องจากในช่วงสุนัขแรกเกิดยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับภูมิคุ้มกันที่ได้รับมาจากแม่หรือที่เรียกว่า Passive Immunity ซึ่งภูมิคุ้มกันแบบนี้แม่สุนัขจะถ่ายทอดให้ลูกได้ 2 วิธี คือ 20% จะมาจากการที่แม่สุนัขถ่ายทอดให้ในระหว่างการตั้งท้อง และอีกกว่า 80% เป็นการให้ผ่านทาง Colostrum หรือนมน้ำเหลือง ซึ่งภูมิคุ้มกันที่แม่สุนัขถ่ายทอดมาให้นี้จะอยู่ได้ประมาณ 6-8 สัปดาห์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัขในช่วงนั้น เพราะว่านั่นเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันที่ลูกสุนัขได้รับมาจากแม่กำลังเริ่มหมดไปแล้วนั่นเอง

เติมการปกป้องของคุณแม่ให้กับลูกสุนัข

มาเลือกอาหารลูกสุนัขที่มีส่วนผสมของ Colostrum กันเถอะ

ในช่วงปีแรกของลูกสุนัขนั้นถือว่าเป็นช่วงที่ลูกสุนัขต้องผ่านสถานการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งการหย่านม การฉีดวัคซีน และการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในช่วงลูกสุนัขหย่านม ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันที่ได้รับมาจากแม่จาก Colostrum ค่อยๆ ลดลงพอดีหรือที่เรียกกันว่า Immunity Gap นั่นเอง

Immunity Gap : รอยต่อของภูมิคุ้มกันสุดอันตราย

Immunity Gap คือช่วงที่ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากแม่ค่อยๆ ลดลง จนเกือบหมด และภูมิคุ้มกันที่ลูกสุนัขสร้างเองก็ยังมีไม่มากเพียงพอ มักอยู่ในช่วงลูกสุนัขอายุ 6-10 สัปดาห์ ประกอบกับเป็นช่วงหย่านมและเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ด้วย เลยถือว่าเป็นช่วงที่ลูกสุนัขเสี่ยงที่จะติดโรคต่างๆ และเกิดภาวะท้องเสียได้มากที่สุด ดังนั้นเราจึงควรปกป้องลูกสุนัขในช่วงนี้ด้วยอาหารที่มีส่วนผสมของ Colostrum ที่มีภูมิคุ้มกันจากแม่ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกสุนัขให้แข็งแรงแทนสารอาหารที่พวกเขาเคยได้จากนมแม่นั่นเอง

ข้อดีของอาหารลูกสุนัขที่มีส่วนผสมของ Colostrum

  1. ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานในระบบทางเดินอาหาร

อาหารลูกสุนัขที่มีส่วนผสมของ Colostrum จะช่วยให้ภูมิต้านทานในระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินอาหารได้ง่าย

  1. ช่วยทำให้แบคทีเรียในลำไส้ทำงานได้อย่างปกติ

Colostrum ที่ผสมอยู่ในอาหารลูกสุนัขจะช่วยให้แบคทีเรียในลำไส้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ส่งผลให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และลดการท้องเสียจากภาวะเครียดหรือเปลี่ยนอาหารของลูกสุนัขได้

  1. ช่วยในการตอบสนองต่อการฉีดวัคซีน

ลูกสุนัขที่ได้กินอาหารที่มีส่วนผสมของ Colostrum จะทำให้เมื่อฉีดวัคซีนแล้วลูกสุนัขจะสามารถตอบสนองต่อการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นอย่าลืมปกป้องลูกสุนัขของเรากันด้วยอาหารที่มีส่วนผสมของ Colostrum นะ

 

Continue Readingรู้จัก Colostrum อ้อมกอดปกป้องจากนมแม่ของสัตว์เลี้ยง

มือใหม่เตรียมพร้อม รับเลี้ยงลูกแมวตัวแรก

สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นเลี้ยงแมวตัวแรก หรือมีลูกแมวตัวใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวแล้วล่ะก็ การเตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับดูแลเค้า ก็จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่ดูแลน้องแมวตัวน้อยให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เร็วขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เค้ามีอารมณ์ที่สดใสแล้ว ยังช่วยให้ลูกแมวตัวน้อยของเรา กลายเป็นลูกแมว สุขภาพดี สามารถทานอาหาร พักผ่อน และขับถ่ายเป็นปกติ ให้คุณพ่อคุณแม่น้องเหมียวมือใหม่อุ่นใจได้นั่นเองค่ะ

1. ตะกร้าแมว สำหรับเดินทางกลับบ้าน

สำหรับการเลี้ยงแมวนี่ คือไอเท็มที่จำเป็นมากเลยค่ะ เพราะการพาลูกแมวไปหาหมอ หรือการเคลื่อนย้ายน้องแมวไปยังสถานที่ใหม่ อาจทำให้ลูกแมวตื่นกลัวและไม่สบายตัว เพื่อนๆ จึงควรเลือกขนาดตะกร้าที่ใหญ่พอให้แมวยืนและหมุนตัวได้ง่าย ควรปิดมิดชิด แต่ต้องระบายอากาศได้ดี และก่อนใช้งานควรปูผ้าเช็ดตัวนุ่มๆ ที่เราใช้งานไปแล้วรองที่พื้นเสียก่อน เพราะกลิ่นที่คุ้นเคยจะทำให้ลูกแมวรู้สึกสบายและปลอดภัยค่ะ

2. ชามใส่น้ำและอาหารลูกแมว

เพื่อนๆ สามารถเลือกชามที่เหมาะสมกับขนาดตัวของลูกแมวได้อย่างอิสระ แต่แนะนำว่าอย่าลืมเติมน้ำสะอาดเอาไว้ให้เค้าทานเสมอเพื่อป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะของแมว ช่วยให้ลูกแมวสุขภาพดี และควรทำความสะอาดชามอาหารลูกแมวทุกวันนะคะ

3. กระบะทราย สำหรับเป็นห้องน้ำแมว

ถึงจะยังเป็นเพียงลูกแมวตัวน้อย แต่ก็แนะนำให้มองหากระบะทรายที่ใหญ่พอสำหรับน้องแมวตัวเต็มวัยเอาไว้ก่อนได้ค่ะ เพื่อที่เค้าจะสามารถใช้ได้ยาวๆ จนโต และขอแนะนำให้เลือกกระบะทรายที่มีความลึกอย่างน้อย 3 เซนติเมตร เพื่อให้น้องแมวตะกุยทรายกลบของเสียเค้าได้สะดวกด้วยนะคะ

4. ทรายแมวคุณภาพดี

ทรายแมวเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับการขับถ่ายของลูกแมว รวมทั้งยังช่วยให้สุขอนามัยภายในบ้านดีขึ้นอีกด้วย เราจึงควรเลือกใช้ทรายแมวที่ได้คุณภาพ เพราะนอกจากจะช่วยให้กระบะทรายของลูกแมวสะอาดแล้ว ตัวทรายแมวควรจะอุ้มน้ำได้ดีและขจัดกลิ่นได้มากกว่าการใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือขี้เลื่อยค่ะ เพื่อนๆ ควรใช้ตะแกรงเหล็กตักของเสียของลูกแมวออกจากทรายแมวทุกวันเพื่อทำความสะอาด เพื่อสุขอนามัยของลูกแมว และล้างด้วยน้ำและสบู่สัปดาห์ละครั้ง เพราะน้องแมวนั้นไม่ชอบกระบะทรายแมวที่เหม็นและสกปรกนะคะ

5. เสาข่วนเล็บแมว

โดยปกติแล้วน้องแมวมักจะใช้การข่วนเล็บเพื่อแสดงอาณาเขต โดยจะทิ้งรอยข่วนที่มองเห็นได้และปล่อยกลิ่นของเค้าติดที่จุดนั้นเอาไว้ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากให้ลูกแมวใช้เล็บข่วนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านจนเสียหายล่ะก็ แนะนำให้มองหาเสาข่วนเล็บสำหรับให้เจ้าเหมียวใช้ข่วนเล็บติดบ้านไว้ด้วยจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

6. ที่นอนแมวแบบส่วนตัว

เพราะว่าน้องแมวส่วนใหญ่ชอบความเป็นส่วนตัว ทุกคนจึงควรเตรียมเตียงให้ลูกแมวเอาไว้เสมอนะคะ โดยอาจจะใช้วัสดุง่ายๆ อย่างลังกระดาษที่สะอาด ตัดช่องสำหรับเข้าออกให้กับน้องแมว ปูเบาะและรองด้วยผ้านุ่มๆ ซึ่งอาจจะเป็นเสื้อตัวเก่าของเรา เพราะกลิ่นตัวที่ติดอยู่ในเสื้อผ้าจะช่วยให้แมวนอนสบาย และกระตุ้นให้เค้าอยากใช้ที่นอนแมวใหม่ด้วยนั่นเอง

7. อ่างอาบน้ำแมว

อ่างอาบน้ำที่ไม่ลึกจนเกินไปและมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะให้ลูกแมวลงไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เลี้ยงแมวชิ้นสำคัญควรมีติดบ้านเลยค่ะ เพราะว่าลูกแมวส่วนใหญ่จะรู้สึกปลอดภัย และควบคุมได้ง่ายกว่าเมื่ออยู่ในที่ๆ เหมือนมีกำแพงโอบรอบนั่นเอง และถ้าอยากให้เค้ารู้สึกคุ้นเคยกับอ่างอาบน้ำมากขึ้น ก็เพียงใส่ของเล่นแมวลงไปในอ่าง ปล่อยให้น้องแมวเล่นของเล่นสักสองถึงสามนาที หลังจากนั้นให้หยุดและเติมน้ำลงอ่างเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้เล่นต่อ วิธีนี้จะทำให้เค้าชินกับอ่างมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ช้าเวลาอาบน้ำก็จะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานและไม่น่ากลัวอีกต่อไปเลยล่ะค่ะ

8. อุปกรณ์แปรงขนแมว

ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เลี้ยงลูกแมวที่สำคัญมากค่ะ เพราะการแปรงขนแมวเป็นประจำนั้น นอกจากจะช่วยกระตุ้นผิวหนังให้ลูกแมวสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยขจัดขนที่หลุดร่วง และลดปริมาณก้อนขนที่แมวอาจจะเลียเข้าไปติดในระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วย

9. ของเล่นสำหรับลูกแมว

แม้ว่าลูกแมวตัวน้อยจะอยู่ในช่วงกำลังเติบโต จึงมักจะกินแล้วก็นอนเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็ควรกระตุ้นให้ลูกแมวออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เค้าร่าเริงและช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อ ซึ่งการออกกำลังกายลูกแมวที่ดีที่สุดก็คือการชวนเค้าเล่นของเล่นแมวที่เคลื่อนไหวได้ สั่นได้ หรือแกว่งไปมา ตัวของเล่นแมวต้องมีความคงทนไม่แตกพังง่าย อาทิ ลูกบอลพลาสติก หนูจำลองที่ทำจากยาง หรือสิ่งของบางอย่างในชีวิตประจำวันก็สามารถให้แมวเล่นได้อย่างปลอดภัย เช่น ลูกปิงปอง แกนกระดาษชำระ กล่องรองเท้า ฯลฯ แต่ควรหลีกเลี่ยงของเล่นแมวที่มีความเสี่ยงว่าเค้าอาจจะกลืนลงท้องได้นะคะ

10. ปลอกคอแมว และ สายรัด

ถ้าใครที่มีบ้านพื้นที่กว้างมากๆ และกังวลว่าลูกแมวตัวน้อยของเราจะเดินหลงหายไปจนหาไม่เจอแล้วล่ะก็ อุปกรณ์อย่างปลอกคอแมวและสายรัดจะช่วยได้มากค่ะ แต่แนะนำว่าหากเราต้องการจะผูกเค้าเอาไว้ในบริเวณที่ต้องการหรือจูงเดิน ให้เลือกใช้สายรัดที่คาดรอบตัวของเค้าแทนปลอกคอแมวแมวจะดีกว่า เพราะน้องแมวส่วนใหญ่ไม่ชอบความรู้สึกของการถูกปลอกคอรัดขณะจูงเดินค่ะ

11. อาหารคุณภาพสำหรับลูกแมวสุขภาพดี

และสิ่งจำเป็นที่สำคัญสุดๆ ที่ขาดไม่ได้สำหรับการดูแลลูกแมวตัวน้อยทุกสายพันธุ์เลย ก็คืออาหารลูกแมวที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าอย่างอาหารลูกแมวเกรดซุปเปอร์พรีเมี่ยมของ PurinaONE สูตร Healthy Kitten Formula ทำมาจากเนื้อไก่เป็นส่วนประกอบหลัก มีโปรตีนสูง และมีส่วนผสมของ DHA สารอาหารที่พบในน้ำนมแม่โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้น้องเหมียวมีพัฒนาการที่สมวัย ดังนั้นเพื่อให้เค้าเป็นลูกแมวสุขภาพดี มีครบทุก 6 สัญญาณสุขภาพดี คลิกเข้ามาช้อปได้

12. การดูแลด้วยความรักและความใส่ใจ

นอกจากการเตรียมอุปกรณ์ ของเล่น ของใช้ อาหาร ฯลฯ ไว้ให้พร้อมแล้ว “ความรักและความใส่ใจ” และการให้เวลาอยู่ด้วยกันถือเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นมากสำหรับการเลี้ยงแมว โดยเฉพาะกับลูกแมวที่ส่วนใหญ่จะซนและมีพลังงานเหลือเฟือ แถมมีนิสัยเรียกร้องความรักความสนใจเหมือนกับเด็กๆ ดังนั้นถ้าเราให้เวลากับการดูแลและเล่นกับลูกแมวโดยไม่ปล่อยปละละเลย นอกจากจะทำให้น้องแมวมีความสุขและเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพที่ดีแล้ว เค้าก็จะมอบความสุขกลับมาให้เราได้ทุกๆ ครั้งที่ใช้เวลาร่วมกันได้อีกด้วยค่ะ

คำแนะนำสุดท้ายสำหรับมือใหม่ที่พร้อมจะเลี้ยงแมวตัวแรก นั่นก็คือเราควรหมั่นพาเค้าไปฉีดวัคซีนแมวและตรวจสุขภาพแมวอย่างสม่ำเสมอตามที่สัตวแพทย์แนะนำด้วยนะคะ เค้าจะได้มีสุขภาพที่ดีพร้อมที่จะเติบโตกลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวที่จะอยู่ด้วยกัน และมอบความสุขให้แก่กันไปตลอดชีวิตนั่นเองค่ะ

Continue Readingมือใหม่เตรียมพร้อม รับเลี้ยงลูกแมวตัวแรก