ไขข้อข้องใจเรื่องคราบน้ำตา เกิดจากอะไร? เราสามารถรักษาได้ไหม?

คราบน้ำตา ปัญหากวนใจ เราสามารถรักษาได้ไหม? การเปลี่ยนอาหารช่วยเรื่องคราบน้ำตาได้จริงหรือไม่? 

สรุปแบบสั้น

เราสามารถรักษาคราบน้ำตาได้ไหม?- ได้หากเรารักษาที่ต้นเหตุอย่างถูกวิธี

การเปลี่ยนอาหารช่วยเรื่องคราบน้ำตาได้จริงหรือไม่? – ได้ในกรณีที่น้องหมามีอาการแพ้อาหารบางชนิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของสัตวแพทย์ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดคราบน้ำตา นอกจากอาหาร เช่นโครงสร้างของใบหน้า หรือ อาการอักเสบรอบดวงตา

ริ้วสีน้ำตาลแดงใต้ตาของสุนัข เจ้าของคงเคยสังเกตเห็นกันบ้างแล้วใช่มั้ยคะ รอยนั้นคือคราบน้ำตาของสุนัขนั่นเองค่ะ ซึ่งเราสามารถพบบ่อยในสุนัขบางสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีขนสีขาวหรือสีขนอ่อน เช่น มอลทีส พุดเดิ้ล ชิวาว่าเเละสุนัขสายพันธุ์จมูกสั้น เช่น ชิสุ ปักกิ่ง และปั๊ก มีแนวโน้มที่จะมีน้ำตาไหลออกมามากกว่าสายพันธุ์สุนัขที่มีจมูกยาว

แล้วอะไรที่เป็นสาเหตุของปัญหาเหล่านี้ เจ้าของจะมีวิธีการแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง? อาหารสุนัขบางประเภททำให้เกิดคราบน้ำตาหรือไม่? แล้วการใช้น้ำยาเช็ดคราบน้ำตาจะช่วยได้ไหม?

ก่อนอื่นเราต้องดูจากสาเหตุที่มาของคราบน้ำตากันก่อนค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดคราบน้ำตาในสุนัขคืออะไร?

  1. ปริมาณน้ำตามากกว่าปกติ
  • สาเหตุจากการกินอาหารที่มีสารสังเคราะห์บางชนิดหรือมีส่วนประกอบของโปรตีนและไขมันสูงจนเกินไป หรือเป็นผลมาจากการใช้ภาชนะที่เป็นพลาสติกมากจนเกินไป ทำให้เกินอาการแพ้ ร่างกายของสุนัขจึงผลิตน้ำตาออกมามากจนเกินไป
  • เกิดจากการระคายเคือง เช่น การแพ้, การอักเสบที่ดวงตาหรือรอบดวงตา, ขนตาทิ่มตา หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา

2. ท่อระบาบน้ำตาอุดตัน

  • สาเหตุจากความผิดปกติโดยกำเนิดมีเมือกอุดตัน หรือ เบ้าตาตื้น หากเบ้าตาไม่ใหญ่หรือลึกพอ ก็อาจเป็นสาเหตุที่น้ำตาไหลออกมาที่ขนรอบดวงตาได้
  • รูระบายน้ำตาถูกปิดกั้นจากเปลือกตาที่หันเข้าด้านใน หรือหนังตาที่ม้วนเข้าหาลูกตา

ปัญหาคราบน้ำตาของสุนัขสามารถรักษาได้หรือไม่?

เราควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุของคราบน้ำตา และทำการรักษาตามสาเหตุ เช่น 

  • หากมีการอุดตันที่ท่อระบายน้ำตา สัตวแพทย์จะทำการสวนล้าง และ/หรือใช้ยาหยอดตา 
  • อาจมีการปรับอาหารหากคราบน้ำตาเกิดจากการแพ้อาหาร หรือส่วนประกอบบางอย่างในอาหาร
  • หากเป็นที่โครงสร้างของใบหน้าและหนังตาอาจพิจารณาผ่าตัดแก้ไขตามความเหมาะสม

สิ่งที่ทำได้เบื้องต้น 

  • สามารถใช้น้ำอุ่นชุบผ้าขนหนูเพื่อเช็ดคราบน้ำตาของสุนัขได้ ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าคราบน้ำตาจะหายไป แต่คราบจะค่อยๆจางลง  หรือสามารถใช้น้ำยาเช็ดคราบน้ำตาที่มีอยู่ในท้องตลาดได้
  • ตัดขนรอบๆดวงตาของสุนัขที่อาจสามารถทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองได้ 
  • หากน้องหมายังชอบเกาตาอยู่ สามารถป้องกันได้ด้วยการใส่ปลอกคอกันเลีย จนกว่าจะได้พบกับสัตวแพทย์

ทั้งนี้การใช้น้ำยาเช็ดคราบน้ำตาอาจเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ อีกทั้งการเปลี่ยนอาหารลดคราบน้ำตาสุนัขนั้นอาจไม่ได้ช่วยรักษาคราบน้ำตาได้ เราควรพาน้องมาพบสัตวแพทย์เพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงและ รักษาคราบน้ำตาน้องหมาอย่างทุกวิธีกันค่ะ 

Continue Readingไขข้อข้องใจเรื่องคราบน้ำตา เกิดจากอะไร? เราสามารถรักษาได้ไหม?

วัคซีนราคาใหม่เอาใจทาสจ๋า

Continue Readingวัคซีนราคาใหม่เอาใจทาสจ๋า

Dr.Choice สินค้าของคนรักสัตว์เลี้ยงที่ไม่ควรพลาด!

Dr.Choice โดยโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สินค้าคุณภาพจากผู้มีประสบการ์ณ ในราคาคุ้มค่า!

แบรน์ Dr.Choice เกิดจากกลุ่มคนรักสัตว์ของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ที่มีประสบการ์ณทางการแพทย์กว่า 26 ปี อีกทั้งยังมีความรู้ความเข้าใจในสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี

เราอยากพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเติมเต็มความต้องการของคนรักสัตว์ให้ได้มากที่สุดไม่ใช่แค่บริการ แต่รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

เจ้าของสามารถมั่นใจได้เลยว่าสินค้านั้นมีคุณภาพตามมาตราฐานของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ และเป็นสินค้าแบบเดียวกันกับที่เราใช้ในโรงพยาบาลของเรานั่นเอง

  1. แผ่นรองซับ ใช้รองฉี่ หรือปูกรง ปูกันเปื้อนก็เหมาะไปหมด
  • หนานุ่มสบาย พิเศษมากกว่าใคร ด้วยราคาที่คุ้มค่า
  • วัสดุผิวหน้าเป็นแผ่นสังเคราะห์เทอร์โมบอนด์ ช่วยให้ของเหลวลงสู่ด้านล่างรวดเร็ว เพิ่มความไวในการซึมซับ ทำให้ผิวด้านบนแห้งสนิท เพียง 3 วินาที!
  • เทคโนโลยี Sumitomo เจลมาตรฐานจากญี่ปุ่น สามารถดูดซึมของเหลวได้มากเป็น 3 เท่าของเจลธรรมดา
  • มีสารยับยั้งแบคทีเรีย ช่วยดับกลิ่นเหม็น ยาวนาน 48 ชั่วโมง

ทดสอบและใช้จริงที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ!

2. แชมพู Dr.Choice สูตรสมุนไพรไทย ขมิ้นชัน ลดอาการคันเหมาะกับผิวแพ้ง่าย

  • แชมพูสูตรขมิ้นชัน ปราศจากพาราเบน ช่วยทำความสะอาดขนและผิวหนัง ให้ความชุ่มชื้น ไม่แห้งคัน ลดอาการแพ้และบำรุงขนให้นุ่มลื่นในขั้นตอนเดียว
  • กลิ่นหอม 3 แบบโดนใจทั้งเจ้าของและลูกรักสี่ขา มาพร้อมน้ำหอมบำรุงขน กลิ่นเข้ากันเพื่อให้กลิ่นติดทนนาน
  • เหมาะสำหรับผิวบอบบางและผิวแพ้ง่าย
  • เป็นแชมพูที่ใช้จริงในแผนกอาบน้ำ ตัดขนของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มาแล้วมากกว่า 10,000 ตัว

3. เสปร์ยดับกลิ่นอเนกประสงค์ ดับกลิ่นทันทีที่ใช้

ความลับของคำว่า “โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อแทบไม่มีกลิ่นสัตว์เลี้ยงเลย!” ถ้าคุณเคยพาสัตว์เลี้ยงของคุณมาหาเรา จะสังเกตได้ว่าไม่ว่าจะสาขาไหน โรงพยาบาลของเราแถบจะไม่มีกลิ่นเลย และนี่แหละความลับของเรา

  • สเปรย์ดับกลิ่นอเนกประสงค์ Dr.Choice ออกแบบมาเพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสัตว์เลี้ยงด้วยส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ได้แก่ ทีทรีออยล์ และสารสกัดจากน้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอมและขิง ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ในทันทีที่ใช้

4. ขนมสันในไก่ Dr.Choice

สันในไก่เป็นขนมยอดฮิตที่เรานิยมกันให้สุนัขของทานเล่น หรือเป็นของรางวัล

ทางโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อได้ให้ความสำคัญกับโภชนาการของสุนัขมากๆ เราจึงออกแบบขนมที่ทานแล้วไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพื่อให้เจ้าของรู้สุกสบายใจทุกครั้งที่ได้ให้รางวัลกับเจ้าตัวแสบที่บ้านค่ะ

  • กลิ่นหอมน่าทานเย้ายวนใจ
  • ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีเกลือ
  • Human grade ใช้เนื้อไก่คุณภาพดี
  • เนื้อสัมผัสไม่แข็งจนเกินไป ทานง่าย

มีหลายแบบให้เลือกเหมาะกับสุนัขหลายไซส์

5. ที่นอนสัตว์เลี้ยง นาโน Dr.Choice

เคยสังเกตไหมว่าทำไมบางทีลูกรักของเราจึงมีกลิ่นตัว บางทีหาสาเหตุไม่ได้ อาบน้ำแปบเดียวก็กลับมามีกลิ่นอีกแล้ว

หนึ่งสาเหตุใหญ่ๆอาจมาจากที่นอนของน้องนี่แหละคะ เนื้อผ้าของที่นอนบางรุ่นอาจระบายอากาศได้ไม่ดีนัก ทำให้เกิดความอับชื้นและการสะสมของแบคทีเรียในที่นอน ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

แต่ที่นอนนาโนของเราเห็นหน้าตาเหมือนที่นอนธรรมดาทั่วไปแบบนี้ แต่ไม่ธรรมดานะคะ  

  • นวัตกรรม Nano Technology เคลือบเส้นใยผ้าทุกการถักทอ ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำ ไม่เก็บกลิ่น ไม่อับชื้น ตัวผ้าระบายอากาศได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย
  • คิดค้นเพื่อให้ของเหลว ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะ หรือน้ำลาย ไม่ให้ซึมลงที่นอนทันที
  • อายุการใช้งานยาว สามารถนำเข้าเครื่องซักผ้าได้
Continue ReadingDr.Choice สินค้าของคนรักสัตว์เลี้ยงที่ไม่ควรพลาด!

ไขข้อสงสัย แมวต้องอาบน้ำไหม? อาบน้ำแมวอย่างไร?

ไขข้อสงสัย แมวอาบน้ำได้ไหม? เราควรอาบน้ำแมวอย่างไร?

ตอบ – อย่างที่ทุกคนรู้กันแมวมักมีพฤติกรรมทำความสะอาดตัวเองด้วยการเลียขนสม่ำเสมอ แต่เมื่อน้องเหมียวอาศัยอยู่กับเรา การเลียขนตัวเองก็ไม่ได้ช่วยให้ตัวของแมวมีกลิ่นที่ดีขึ้น หรือในกรณีที่น้องออกไปเล่นซนข้างนอกตัวเปื้อนกลับมา การทำความสะอาดโดยธรรมชาติด้วยการเลียก็คงไม่เพียงพอ ดังนั้นการอาบน้ำจึงสำคัญมากๆเพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้านค่ะ

แม้ว่าจะมีความเชื่อหลายๆอย่างว่าแมวไม่ชอบน้ำ แต่เรื่องนี้ก็ไม่จริงเสมอไปค่ะ บางกรณีที่กรูมมิ่งของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เราก็ได้เจอกับน้องแมวหลายๆบ้านที่ไม่มีปัญหากับการอาบน้ำเลยค่ะ บางรายดูอาจจะชอบน้ำด้วยซ้ำไปค่ะ

แต่สำหรับบ้านไหนที่ไม่สะดวกพามาเรามีวิธีแนะนำการอาบน้ำของน้องแมวที่บ้านกันค่ะ

  1. เริ่มเตรียมน้ำอุ่นใส่ในอ่างน้ำหรือกะละมัง เช็คอุณหภูมิให้ไม่ร้อนและเย็นเกินไปนะคะ จากนนั้นจับน้องแมวด้วยมือทั้ง 2 ข้างลงไปในน้ำอุ่น
  2. หลังจากนั้นค่อยๆตักน้ำ ใส่ตัวน้องเหมียวให้เปียกให้ทั่ว แต่ห้ามอย่าให้โดนหน้าของเขาเลยนะคะ เพราะน้องจะตกใจได้
  3. เมื่อตัวของแมวเปียกจนทั่วแล้ว ค่อยๆใส่แชมพูที่มือของเราและชโลมให้ทั่วตัวของแมว ค่อยๆนวดจนแชมพูลงไปถึงผิวด้านใน
  4. หลังจากนั้น ล้างแชมพูออกด้วยน้ำอุ่น โดยการล้างแชมพูออกให้หมดถือว่าสำคัญมากเพราะเมื่อตัวน้องเหมียวแห้งแล้ว แขมพูที่หลงเหลืออยู่บนผิวหนังอาจทำให้น้องระคายเคืองได้ค่ะ
  5. สุดท้ายถึงเวลาที่เราจะมาทำความสะอาดส่วนใบหน้าของแมว โดยนำผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น และค่อยๆ เช็ดให้ทั่วใบหน้า ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามเราไม่ควรเทน้ำใส่หน้าของน้องแมวตรงๆนะคะ
  6. มาถึงขั้นสุดท้าย พาน้องแมวออกจากอ่างน้ำหรือกะละมัง โอบเขาด้วยผ้าขนหนูนิ่มๆ เช็ดตัวน้องให้แห้ง หรือสามารถเป่าขนน้องแมวด้วยไดร์ แต่ต้องระวังนะคะเพราะน้องแมวบางตัวจะกลัวเสียงของไดร์และเริ่มแสดงอาการเกรี้ยวกราด กรณีนี้ให้เช็ดจนตัวแห้งที่สุดและปล่อยให้ขนแห้งตามธรรมชาติค่ะ

ถ้าในกรณีที่ทำยังไงเจ้านายที่บ้านก็ไม่ยอมอาบเลย

ที่บ้านสามารถลองใช้แชมพูอาบน้ำแห้งแก้ขัดไปก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคราบสกปรกที่น้องไปเล่นซนมา เราก็แนะนำให้อาบน้ำเพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดีค่ะ ทางบ้านสามารถพาน้องไปอาบน้ำกับช่างกรูมมิ่งได้ หรือถ้าสนใจมาที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เรามีช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมสำหรับน้องแมวโดยเฉพาะเลย  คุณแม่หมดห่วงได้เลยค่ะ

อ้างอิงจาก: https://pethelpful.com/cats/Bathing-Your-Cat-Without-Getting-Clawed-to-Death-Simple-Cat-Bathing-Tips

Continue Readingไขข้อสงสัย แมวต้องอาบน้ำไหม? อาบน้ำแมวอย่างไร?

เหตุผลที่สุนัขไม่ยอมทานข้าวและสิ่งที่ควรทำ

สุนัขไม่ยอมทานอาหาร เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

คุณแม่เคยสังเกตกันบ้างไหมคะ ทำไมสุนัขที่เคยทานทุกอย่าง อยู่ดีๆก็เกิดอาการเบื่ออาหาร ดมๆที่ชามอาหารแล้วก็เดินหนีไป หรือบางครั้งก็เมินอาหารซะงั้น เรามาดูกันค่ะว่าเหตุผลที่อาจส่งผลให้น้องหมาไม่ทานข้าวมีอะไรบ้าง

  1. ปัญหาในช่องปาก

ปัญหาในช่องปากจริงๆแล้วสามารถเจอได้บ่อยๆเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะมองข้ามเนื่องจากน้องๆไม่สามารถบอกเราได้ หรือตัวเราเองบ้างครั้งก็แทบไม่ได้สังเกตช่องปากของพวกเขาเลยค่ะ

อาการบวมหรือเลือดออกที่เหงือกสามารถเป็นตัวบ่งบอกโรคในช่องปากหลายๆโรคได้ เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือเนื้องอกในช่องปาก โดยอาการเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการปวดหรือเจ็บในปากทำให้น้องหมาไม่ยอมทานข้าวนั่นเอง

  1. ปัญหาช่องท้อง

บางครั้งสุนัขจอมซนแอบกินอะไรเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเปล่านะ? ขนมที่ย่อยค่อนข้างยาก หรือ ของเล่นชิ้นเล็กๆที่น้องกลืนเข้าไป สามารถทำให้ท้องของเจ้าสี่ขาปั่นป่วนได้ เมื่อสุนัขของเราปวดท้องโดยธรรมชาติแล้วเขาจะพยายามเอาสิ่งที่ทานเข้าไปออกมาโดยการอาเจียนหรือทานหญ้านั่นเอง ซึ่งหลังจากนั้นอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียและทำให้สุนัขหลีกเลี่ยงการทานอาหาร

ในกรณีที่น้องทานสิ่งแปลกปลอมเช่น ของเล่นให้รีบปรึกษาสัตวแพทย์นะคะ ที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อเราเจอเคสที่ต้องผ่าตัดเอาของเล่นออกจากท้องของน้องหมาค่อนข้างบ่อยเลยค่ะ

  1. เกิดจากภาวะการป่วย ซึ่งมีหลายสาเหตุ อาทิ
  • ภาวะการขาดน้ำ ซึ่งเป็นผลทำให้ร่างกายมีเลือดไหลเวียนน้อย ซึม ไม่มีแรง และมีผลต่อความอยากอาหารในที่สุด
  • ภาวะการป่วยจากโรคต่างๆ อาทิ โรค ตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคทางระบบเลือด เป็นต้น

ถ้าไม่ใช่สาเหตุจากพฤติกรรม ควรจะทำการตรวจเพิ่มเติม โดยการนำสัตว์เลี้ยงพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือ เอกซ์เรย์ เพื่อช่วยให้วินิจฉัยให้กว้างขึ้น

  1. เลือกกิน หรือ เบื่ออาหาร

น้องหมาก็เหมือนกับเรานี่หละค่ะ เขามีสื่งที่เขาชอบทาน เมื่อเวลาผ่านไปบางครั้งความชอบของเขาก็สามารถเปลี่ยนกันได้ค่ะ โดยวัตถุดิบบางอย่างที่อยู่ในอาหารบางประเภทอาจทำให้เขาเลือกที่จะไม่ทานข้าว โดยการแก้ปัญหาอาจเลือกอาหารที่มีความน่าทานสูง หรือ เราอาจเรื่องท้อปปิ้งเพิ่มไปในอาหารที่เขาทานประจำเพื่อเพิ่มความน่าทานให้อาหารค่ะ ซึ่งเจ้าของสามารถเลือกอาหารสำหรับสุนัขเลือกกินได้  ตามนี้เลยค่ะ

เมื่อน้องหมามีความชอบไม่เหมือนกันแล้ว การทานอาหารซ้ำๆกันทุกมื้ออาจส่งผลให้เขาเบื่ออาหารได้ค่ะ ซึ่งการเพิ่มท้อปปิ้งหรืออาหารเปียกอาจช่วยให้เขาอยากอาหารได้มากขึ้นอีกค่ะ

  1. พฤติกรรมการให้ขนม

ถึงแม้การเพิ่มท้อปปิ้งให้กับอาหารเม็ดของสุนัขจะช่วยเรื่องปัญหาเลือกินหรือสุนัขเบื่ออาหารได้ แต่บางครั้ง การให้บ่อยเกินไปก็สามารถทำให้เกิดพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีได้ โดยเฉพาะการให้ขนมหรืออาหารของคน เพราะน้องหมาจะอาจหวังปริมาณขนมที่เพิ่มขึ้น หรือพูดง่ายๆคือไม่ต้องทานอาหารที่ทานประจำก็จะได้กินขนมอยู่ดี ดังนั้นเราควรค่อยๆลดปริมาณขนมลงเรื่อยๆจนกว่าน้องจะยอมทานอาหารมื้อประจำนั่นเอง

 สิ่งที่ควรทำ

เราจะเห็นได้แล้วว่าต้นเหตุของการที่สุนัขเบื่ออาหารหรือไม่ยอมทานข้าวนั้นมาจากได้หลายสาเหตุทั้งปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมการให้อาหารของเรา โดยเราควรทำอย่างไรเมื่อสุนัขเริ่มไม่ทานข้าว

  • สังเกตพฤติกรรมและอาการของน้อง เช่นอาการท้องเสีย หรือช่องปากดูผิดปกติ ถ้าเจ้าของมีความสงสัยว่าอาการเบื่ออาหารนั้นอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพให้รีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการของน้องนะ
  • ลองเปลี่ยนอาหารถ้าสาเหตุไม่ได้มาจากปัญหาสุขภาพ โดยช่วงแรกอาจต้องค่อยๆเปลี่ยนอาหารโดยการผสมอาหารเดิมและอาหารใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในระบบทางเดินโดยเริ่มใส่อาหารใหม่เป็นสัดส่วน 25%, 50%, 75% และ 100% ตามลำดับ หรืออีกวิธีคือลองใส่อาหารเปียกเป็นท้อปปิ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความน่าทานให้กับอาหารมื้อประจำที่น้องทานอยู่ รับรองว่าน้องหมาจะยอมทานข้าวแน่นอน

อ้างอิงจาก: https://www.dailydogstuff.com/dog-wont-eat/

สินค้าเกี่ยวกับสุนัข ใหม่ล่าสุด!

Continue Readingเหตุผลที่สุนัขไม่ยอมทานข้าวและสิ่งที่ควรทำ

หมาแมวติดเชื้อโคโรนาไวรัสได้หรือไม่ ?

ความจริงคือ เชื้อโคโรนาไวรัส (nCoV-2019) หรือไวรัสอู่ฮั่นที่กำลังระบาดในคนเป็นเชื้อคนละตัวกับไวรัสโคโรนาในน้องหมาน้องแมว ที่หลายคนคงสงสัยว่าเชื้อโคโรนาในน้องหมาน้องแมวที่เราเคยรู้จักกันมา จะเป็นเชื้อตัวเดียวกันมั้ย จะติดคนหรือไม่ วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันค่ะ

ในทางการแพทย์ได้ตรวจพบไวรัสโคโรนาในสัตว์มานานแล้ว ซึ่งไวรัสโคโรนาในสัตว์นั้นเป็นไวรัสที่จำเพาะเจาะจงในแต่ละสายพันธุ์ จะไม่แพร่เชื้อข้ามสายพันธุ์สัตว์
โดยในสุนัขจะมีไวรัสโคโรนาเฉพาะสายพันธุ์ คือ Canine coronavirus
ส่วนในแมวไวรัสโคโรนาเฉพาะสายพันธุ์ คือ Feline coronavirus
โคโรนาไวรัสในสุนัขและแมวนั้นคนละสายพันธุ์กัน ดังนั้นเมื่อติดเชื้อจึงจะแสดงอาการต่างกัน
อาการในน้องหมา : จะทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร จะมีอาการไอ, จาม มีน้ำมูก หายใจติดขัด และอาจมีอาการอื่น เช่น อาเจียน, ท้องเสีย, เซื่องซึม, เบื่ออาหาร เป็นต้น
อาการในน้องแมว : อาการในน้องแมวจะมีความรุนแรงกว่าน้องหมา โดยไวรัสจะโจมตีระบบทางเดินหายใจและระบบการย่อยอาหารของน้องแมว อาการเริ่มต้นจะคล้ายป่วยเป็นไข้ทั่วไป จามบ่อย, ตาแฉะ, น้ำมูกไหล, ท้องเสีย, คลื่นไส้, น้ำหนักลด และในแมวบางตัวที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ไวรัสอาจกลายพันธุ์เป็นโรคเยี่อบุช่องท้องอักเสบ (FIP) ซึ่งจะแสดงอาการแตกต่างกันออกไปขึ้นกับระดับของภูมิคุ้มกันของแมวในแต่ละตัว เกิดอาการได้ 2 แบบ เรียกกันว่า
– แบบเปียก (wet หรือ effusive form) มีน้ำในช่องท้องหรือช่องอก สังเกตุเห็นได้
– แบบแห้ง (dry หรือ non-effusive form) จะมีความยากเป็นพิเศษ เนื่องจากแมวจะไม่ได้แสดงอาการแบบจำเพาะ อาการจะเป็นตามรอยโรคที่ปรากฏอยู่
โดยไวรัสโคโรนาในแมวเป็นไวรัสที่ติดต่อระหว่างแมวผ่านการสัมผัสกับอุจจาระที่ติดเชื้อ หรือการเลียขน

ดังนั้นหากพบอาการความผิดปกติของน้องควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ และอย่าลืมพาน้องหมาน้องแมวมาตรวจสุขภาพปีละครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรักสี่ขานะคะ

Pages

Continue Readingหมาแมวติดเชื้อโคโรนาไวรัสได้หรือไม่ ?